“หอบหืด” (Asthma)
และ “ไอเรื้อรัง”
สวัสดีครับ ผมเชื่อว่ากว่า 80%
ของคนที่เข้ามาอ่านตรงนี้
คุณยังไม่หายขาดจากอาการ
“หอบหืด” หรือ “ไอเรื้อรัง”
และยังคงทรมาน”รุนแรง“อยู่ใช่มั้ยครับ ?
หากคุณยังสงสัยว่า แบบไหนคือรุนแรง?
ลองดูว่าคุณยังเป็น 3 สิ่งนี้อยู่มั้ยครับ?
(ซึ่งมักจะกำเริบมากกว่า 2 ครั้ง/สัปดาห์)
1.ต้องพกยาสูดพ่นตลอดเวลา
2.หายใจไม่ออก หอบ เหนื่อย
(หายใจเข้าไม่เต็มปอด)
3.ลงนอนราบไม่ได้เลย
ต้องกึ่งนั่ง กึ่งนอน
ฟุบ หรือนอนตะแคงบางท่าถึงจะหลับ
ถ้าคุณยังเป็น 2ใน3อาการ ข้างบนนี้
(และกำเริบมากกว่า2ครั้ง/สัปดาห์)
คุณก็กำลังเป็น
“หอบหืด”หรือ”ไอเรื้อรัง”
แบบรุนแรงแล้วครับ
ระดับความรุนแรง
ตามรูปด้านล่างนี้เลยครับ
ข้อมูลจาก
(สมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย)
แล้วถ้าคุณกำลังเป็น “เเบบรุนแรง“
“ความทรมาน”คุณคงรู้สึกชัดๆ
ด้วยตัวคุณเองแล้วละครับว่า
เวลาอาการกำเริบ
มัน”ทรมานแทบตาย“ขนาดไหน?
แต่มีอีกสิ่งหนึ่ง
ที่สาหัสกว่า“ทรมานแทบตาย”
ที่คุณอาจจะยังไม่รู้คือ ?
ค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน
เพราะเข้าฉุกเฉินครับ!!!
ความสาหัสใหญ่มหึมา
ที่คุณอาจจะลืมคิดไปก็ได้นะครับ?
โรคหอบหืด คนไทยเข้าฉุกเฉิน
กว่า 1,000,000 ครั้ง/ปี
(ข้อมูลจาก กรมควบคุมโรค)
เพราะนอกจากค่ายาประจำตัว
ที่พกทุกวัน
ที่คุณต้องควักกระเป๋าตังค์จ่าย
ขวดละหลายร้อยบาท
จนถึงหลักพันบาทแล้ว
ค่ารักษา“ฉุกเฉิน”
ที่โดนคิดราคาแบบ“ฉุกเฉิน”ละ?
ที่มันต้องเกิดขึ้นกับคุณ
ตอนที่คุณอาการกำเริบหนัก
ที่ทุก“วินาที”มีผลกับชีวิตของคุณ
ค่าใช้จ่ายจะพุ่งสูง
ตามวินาทีชีวิตคุณแน่ๆ
แค่แอ็ดมิทโรคปกติ
ก็ขั้นต่ำคืนละ 15,000บาทแล้ว
ทั้งหมด ยังไม่จบเท่านี้
ผมเชื่อว่า คุณน่าจะลืมอะไรบางอย่าง
ที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ
คนที่เค้า “รักคุณ”
คนที่สำคัญที่สุดในชีวิต
ที่คุณอาจจะลืม?
โรคหอบหืด
นอกจาก”ทรมานแทบตาย“แล้ว
ชีวิตแต่ละวันของคนรอบตัวคุณ
ก็สาหัสเช่นกัน
จาก อารมณ์หงุดหงิด เหวี่ยง วีน ของคุณ
ที่คุณพร้อมจะระเบิดอารมณ์
ใส่คนที่รักคุณ ที่อยู่รอบๆตัวคุณ
(บางทีคุณอาจทำไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้)
ผมเชื่อว่าทุกคนเค้าเข้าใจ
และให้อภัยคุณนะครับ
เพราะทุกคน…”รักคุณ“
เพราะทุกคน อยากเห็นคุณ
กลับมามีความสุขอีกครั้ง
YES !!!
ถ้าคำตอบคือ “ใช่”!!!
3 ข้อต่อไปนี้คือ “หัวใจ”
ที่สำคัญมากๆ
ที่คุณต้องห้ามพลาดเด็ดขาดครับ
เพราะจะทำให้คุณ
ได้กลับไปเป็นคุณ“คนเดิม”
(ข้อ1) ต้องเข้าใจ
และเเก้ปัญหาให้ตรงจุด
(อาจารย์ สมหวัง)
คุณต้องเข้าใจเสียก่อนว่า
โรค”หอบหืด”หรือ”ไอเรื้อรัง”นี้
เป็นโรคโบราณ
ไม่ได้เป็นโรคสมัยใหม่เลย
(ตามการรักษาแบบจีน)
ถ้าผู้เชี่ยวชาญจริงๆ
จะไปแก้ปัญหาให้ตรงจุด
ซึ่งเค้าจะไม่ไปแก้เฉพาะ”หอบหืด”
ให้หายเพียงอย่างเดียว
แต่”ตรงจุด“ที่แท้จริงคือ
เค้าจะ”ฟื้นฟูอวัยวะภายใน”
ที่มันอ่อนแอ (ต้นเหตุตัวจริง!!!)
ให้เค้ากลับมาแข็งแรงด้วย
เมื่อหายขาดไปแล้วก็จะไม่กลับมาเป็นอีก
คุณต้องรู้นะครับว่า ปกติร่างกายคุณ
เค้าจะขับ”สารคัดหลั่ง”
ซึ่งเราจะเรียกว่า เสมหะ หรือ มูกก็ได้
ซึ่งเป็นของเหลว
เค้าก็หลั่งเป็นปกติ
เพื่อทำให้ระบบทางเดินหายใจทั้งระบบ
มีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น
ซึ่งเมื่อขับออกมาแล้ว
ก็ขับทิ้งไปเป็นธรรมชาติ
เเล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับคุณละ?
ผิดปกติยังไง?
ถึงไปทำให้คุณเป็นหอบหืดได้
มาทำความเข้าใจกันต่อไปครับ
(ข้อ2) ผิดปกติ
ก็เพราะว่าอวัยวะภายในคุณ”อ่อนแอ”
(อาจารย์ สมหวัง)
เมื่ออวัยวะภายในของคุณ
บางส่วนเค้าอ่อนแอ
สารคัดหลั่งที่ออกมาแล้วตามธรรมชาติ
มันถูก “ขับทิ้งออกไปไม่หมด”
นี่คือความผิดปกติ
เมื่อออกไปไม่หมด มันก็เกิดการตกค้าง
เมื่อค้างนานๆก็ทับถม
ทับถมนานๆ ก็พอกหนาไปเรื่อยๆ
จนเป็นผังผืด ซึ่งก็กลายเป็น
โรค“หอบหืด” และ “ไอเรื้อรัง”
สาเหตุที่สารคัดหลั่ง
“ตกค้าง พอกหนา”
(ตามการแพทย์ปัจจุบัน)
ข้อมูลจาก
(สภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย พ.ศ.2555)
โรคหืดเกิดจาก
การอักเสบเรื้อรังของหลอดลม
เป็นผลมาจากพันธุกรรมหรือสิ่งแวดล้อม
เช่นสารก่อภูมิแพ้
ทำให้มีการอักเสบเกิดขึ้นตลอดเวลา
สารเคมีที่ก่อการอักเสบเรียกว่า
Th2 Cytokine
ซึ่งสร้างจากเม็ดเลือดขาว
สารเหล่านี้
ออกฤทธิ์ในการเรียกเม็ดเลือดขาว
ชนิดต่างๆเข้ามาในหลอดลมและ
กระตุ้นการสร้างสารคัดหลั่ง
ทำให้ผู้ป่วยไอ
หายใจไม่สะดวกจากหลอดลมตีบ
และสารเหล่านี้จะมีปริมาณเพิ่มขึ้น
เกิดอาการหอบหืดมากขึ้น
หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
การอักเสบเรื้อรังของหลอดลมนี้
อาจนำไปสู่
การเกิดผังผืด
และการหนาตัวอย่างมาก
ของผนังหลอดลม
ที่เรียกว่ามีภาวะ
Airway remodelling
เกิดขึ้น ซึ่งมีผลทำให้
มีการอุดกั้นของหลอดลม
“อย่างถาวร“
รูปปอดข้างล่าง(ด้านขวา)
ที่ลูกศรชี้
คือสารคัดหลั่งพิษ ค้างทับถม
พอกหนาจนเป็นผังผืด “อุดตัน”
(ข้อ3) ทับถม พอกหนา
“จนเป็นผังผืดอุดตัน”
คุณเจอปัญหาใหญ่แล้วละ!!!
(อาจารย์ สมหวัง)
ปัญหาใหญ่ที่สุดคือ
“ผังผืด สารคัดหลั่งพิษ”
พอมันสะสม
ก็จะทับถม พอกจนหนา
แล้วจะกลายไปเป็น “ผังผืด”
ไปปิดกั้นระบบทางเดินหายใจ
ผมเชื่อว่าถึงตรงนี้คุณจะมองเห็นภาพ
ของปัญหาได้ชัดเจนขึ้น
คุณคงรู้แล้วละครับว่า
มี”บางสิ่งผิดปกติ”
มันค้างๆคาๆในระบบทางเดินหายใจคุณ
แต่ก่อนที่คุณจะไปจัดการกับมัน
คุณจะต้องรู้ให้ได้เสียก่อนว่า
ผังผืด สารคัดหลั่งพิษนี้
มันทำงานยังไง?
ที่ไปทำให้คุณ“ทรมานแทบตาย“
(อาจารย์ สมหวัง)
ผังผืดที่อุดกั้น มันทำงานแบบนี้ครับ
จึงทำให้คุณ”ทรมานแทบตาย“
ผังผืด สารคัดหลั่งพิษเหล่านี้
มันทำงานด้วยการ
ไปค้างหลายๆจุดในระบบทางเดินหายใจ
และมันเชื่อมโยง
กับความทรมานแทบตาย
หลายอาการแบบนี้
เพราะผังผืดสารคัดหลั่งพิษ
“มันไปค้าง“
อาการคือ
ร่างกายจึง”ไอ จนตัวงอ”
เพื่อพยายามจะขับมันออกมา
แต่เพราะมันอยู่ลึก
ไอจนตัวงอ ยังไงก็ไม่ออก
เพราะผังผืดสารคัดหลั่งพิษ
“มันไปค้าง“
อาการคือ
“นอนผิดท่า”ไม่ได้
เพราะไปกดทับ
ทางเดินหายใจทำให้ตีบ หายใจไม่ออก
ต้องรีบลุกพรวดตื่นขึ้นมา
ต้องกลายเป็นคนที่“นอน แบบนั่ง”
บางทีก็ต้องเอาหมอนมาหนุนช่วย
หรือจัดท่ากึ่งนอน ที่ขยายหลอดลมให้ตรง
จึงจะนอนหลับได้
เพราะผังผืดสารคัดหลั่งพิษ
“มันไปค้าง“
อาการคือ
เวลาหายใจ “ลมมันเข้าไม่เต็มปอด”
เหมือนหายใจไม่อิ่ม
ต้องอ้าปากช่วยหายใจยาวๆ หรือถี่ๆ
จน“หอบ”เหนื่อย
ทำอะไรนิดหน่อยก็หอบ ก็เหนื่อย
เพราะผังผืดสารคัดหลั่งพิษ
“มันไปค้าง“
อาการคือ
เวลาหายใจ
จึงมีเสียง”หวีด”หรือเสียง”หืด”
เพราะมันไปขวางทางเดินหายใจ
พอทางเดินมันตีบก็จะมีเสียงเวลาลมผ่าน
เพราะผังผืดสารคัดหลั่งพิษ
“มันไปค้าง“
อาการคือ
คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่า
อาการจะ”กำเริบ”เมื่อไหร่
จึงทำให้คุณต้องพกยาติดตัวเอาไว้
เพราะผังผืดสารคัดหลั่งพิษ
“มันไปค้าง“
อาการคือ
กลายเป็น”สิ่งแปลกปลอม”
ที่ร่ายกายจะยิ่ง”สร้างผังผืด”
มาห่อหุ้มมันเอาไว้เพิ่มขึ้น
ยิ่งนานก็ยิ่งพอกหนาไปเรื่อย
จนป่วย“เรื้อรัง”
(ลองนึกภาพเวลาเสี้ยนตำเท้าแล้วไม่ดึงออก
นานๆไปจะเป็นตุ่มเนื้อนูนๆ)
เพราะผังผืด สารคัดหลั่งพิษ
“มันไปค้าง“
แบบนี้แหระครับ
คุณถึง”ทรมานแทบตาย”
และ”ไม่หายซักที”
(อาจารย์ สมหวัง)
ถ้าคุณถามคำถามแบบนี้
ผมดีใจกับคุณด้วยนะครับ
แสดงว่าคุณเข้าใจแล้ว
ก็เพราะที่คุณ
“ทรมานแทบตาย“
นั้นเป็นเพราะ
เจ้าผังผืด สารคัดหลั่งพิษนี้
มันไม่ออกไปเองครับ!!!
ถ้าจะทำให้มันออกไป
จากระบบทางเดินหายใจ
จะต้องทำยังไงใช่มั้ยครับ?
ขับ”ผังผืด สารคัดหลั่งพิษ”
ให้ออกไป จากระบบทางเดินหายใจ
โดยใช้ “ตำรับผึ้งทอง”
ตำรับประจำตระกูล “รุ่นที่ 6”
(อาจารย์ สมหวัง)
แต่เดิมนั้น
มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่รู้วิธี
แต่ในปัจจุบันนี้
ผู้ที่เชี่ยวชาญที่ลึกซึ้ง
เหลือน้อยเต็มที
และผู้เชี่ยวชาญ”หอบหืด”จริงๆ
จะรู้ดีว่า
ถ้านำสิ่งสำคัญเหล่านี้มารวมกัน
มาผ่านวิธีการที่ถูกต้อง
จะรักษา”หอบหืด” หรือ “ไอเรื้อรัง”
ได้จบเด็ดขาด!!!
สิ่งสำคัญเหล่านี้ที่ถือเป็นสูตรลับ!!!
ของ “ตำรับผึ้งทอง”
อยู่ที่วัตถุดิบที่เป็นอาหารทั้ง “3ฤดู”
ซึ่งอาหารทั้ง 3ฤดูนั้น
(80% ต้องนำเข้า)
(อาจารย์ สมหวัง)
“ตำรับผึ้งทอง”
เป็น”อาหาร”ครับ
ทานได้ตามปกติเลย
เด็กและผู้ใหญ่ก็ทานได้
เคล็ดลับอยู่ที่!!!
การนำวัตถุดิบ
ที่เป็นอาหาร 3 ฤดูจำนวนมาก
โดยคัดสรรเฉพาะอาหาร ที่วัตถุดิบนั้น
จะต้องปลูกและเก็บเกี่ยวในแต่ละฤดูมาใช้
ต้องนำวัตถุดิบมาให้ครบทั้ง 3ฤดู
ขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้เลย
ผลิตครั้งละมากๆก็ไม่ได้
เพราะวัตถุดิบแต่ละชนิดหายาก
เก็บเกี่ยวได้แค่บางช่วงเวลา
บางครั้งเกือบ 6-9เดือน ก็ไม่มีวัตถุดิบ
จึงไม่สามารถทำตำรับเพื่อรักษาได้เลย
เมื่อได้วัตถุดิบครบถ้วนเเล้ว
ก็มาถึงขั้นตอนที่สำคัญที่สุด
ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด!!!
ขั้นตอนที่สำคัญที่สุด
“ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด”
ของสูตรลับ
คือขั้นตอนต่างๆ ที่ลึกซึ้ง ยุ่งยาก
ต้องปรุงอย่างพิถีพิถัน
จึงต้องควบคุมทุกขั้นตอน
ด้วยมืออาจารย์เอง 100%
ก็เพื่อให้สำเร็จออกมาเป็น
“ตำรับผึ้งทอง”
ตำรับประจำตระกูล “รุ่นที่ 6”
(อาจารย์ สมหวัง)
“ตำรับผึ้งทอง”
ทุกขั้นตอนนั้น“ห้ามผิดพลาดเลย“
ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บรักษาวัตถุดิบ
(ให้คงคุณภาพไว้ให้ได้เกือบ 100%)
ปริมาณสัดส่วนของอาหารแต่ละอย่าง
(ต้องตวง ต้องชั่งให้เป๊ะๆ)
ขั้นตอนการเตรียม
จนถึงการลงมือปรุง
ซึ่งการให้ความร้อนจนสุก
ทุกอย่างต้องเป๊ะมากๆ
เพื่อไม่ให้สรรพคุณที่ออกฤทธิ์หายไป
ต้องเคี่ยวไปเรื่อยๆเป็นวันๆ
จนเข้มข้นได้ที่ตามตำรับโบราณ
แล้วจึงนำไปดองกับน้ำผึ้ง”คัดพิเศษ”
ที่มีเฉพาะบางฤดูกาลเท่านั้น
ซึ่งน้ำผึ้งธรรมดาทั่วไป
จะมีสรรพคุณของกรดที่อ่อนเกินไป
ซึ่งต้องดองในขวดโหล
“นานถึง 12เดือน“
โดยอาจารย์จะเปิดเพื่อทำการ
“ตรวจทุกๆ 3เดือน“
ดูว่าอาหารเหล่านั้นถูกสกัดได้สารสำคัญ
เข้มข้นมากพอหรือยัง
สารสำคัญที่ถูกสกัดด้วยน้ำผึ้งนี้
จะออกฤทธิ์เป็นยาในการรักษา
ขั้นตอนทั้งหมดนี้
จะต้องใช้ความเชี่ยวชาญ
และชำนาญมาอย่างยาวนานจริงๆ
เพื่อสกัดให้ตำรับแต่ละขวดนั้น
มีสารสำคัญ
ที่มีความเข้มข้นในระดับสูง
ให้ตรงกับมาตรฐาน
ที่บรรพบุรุษและปรมาจารย์แต่โบราณ
ได้เมตตาสอนไว้
และถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น
สารสำคัญที่เข้มข้นนี้เอง
คือ”เพชรล้ำค่า“
ที่จะไปขับผังผืด สารคัดหลั่งพิษ
ให้ออกมาให้หมด
ก็จบอาการ”หอบหืด”
หรือ”ไอเรื้อรัง”ครับ
ประสบการณ์ตรง
จากผู้ที่เคยผ่านการรักษากับอาจารย์ครับ
ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา
ตั้งแต่ยังไม่ได้มียุคโซเชียล
จึงไม่ได้มีการเก็บรวบรวมรีวิวเอาไว้
(เพิ่งจะรวบรวมไม่นานนี้ครับ)
ส่วนมากผู้ที่มารักษา
จึงมาจากการบอกกันปากต่อปาก
และนี่คือส่วนหนึ่งของผู้ที่อนุญาต
ให้เปิดเผยผลการรักษาได้
ผมขอปิดบังข้อมูลชื่อ นามสกุล
บางส่วนเอาไว้
เพราะอาจจะไปส่งผล
กับเบี้ยประกันสุขภาพของแต่ละคน
ขอบพระคุณทุกท่าน ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ที่อนุญาตให้เปิดเผยได้
ต้องการสั่งซื้อ
กดที่ปุ่มด้านล่างนี้ได้เลยครับ
อาจารย์สมหวัง
(วัย84ปี)
ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและสมุนไพรจีน
ตำรับเฉพาะประจำตระกูล
อาจารย์ใช้เฉพาะ
ตำรับประจำตระกูลเท่านั้น
ซึ่งผ่านการสืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น
อาจารย์เป็น”รุ่นที่ 6″
(อาจารย์ สมหวัง)
โดยตำรับที่ผมใช้รักษากว่า 1,000คน
(ตลอด 50ปีนี้)
ล้วนสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น
มาจากบรรพบุรุษหลายรุ่นแล้ว
และก็มาจากครูบาอาจารย์ของผม
ซึ่งหลายท่านก็เป็น
แพทย์หลวงประเทศจีน
คำถาม-คำตอบ
ทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้
จะเข้าใจวิธีการรักษา”หอบหืด”
ด้วย”ตำรับผึ้งทอง”
คุณอาจจะมีคำถาม
หลายอย่างที่เกี่ยวกับ”ตำรับผึ้งทอง”
ผมจึงได้รวบรวมคำถามที่คุณ
ต้องไม่พลาด!!!
ที่เคยมีผู้สอบถามอาจารย์ไว้จำนวนมาก
ตลอดระยะเวลาหลายสิบปี
ที่ท่านรักษามาให้ครับ
1. ส่วนประกอบสำคัญ
ของ”ตำรับผึ้งทอง”
ทำมาจากอะไร?
(อาจารย์สมหวัง)
“เป็นอาหารทั้งหมด“
ไม่มียาเลย
โดยใช้
“ผึ้ง น้ำผึ้ง”
และอาหารที่วัตถุดิบ
ต้องปลูกจากทั้ง3ฤดู”
(80% ของวัตถุดิบทั้งหมดต้องนำเข้า)
และไม่มียาสมุนไพรใดๆทั้งสิ้นเลย
นำทั้งหมดมาผสมกัน
โดยชั่งตวงวัดต้องพอดี
ผ่านการให้ความร้อนจนสุก
โดยเคี่ยวให้เข้มข้นจนได้ที่
ตรงตามตำรับทุกอย่าง
แล้วจึงนำไป
ดองกับน้ำผึ้งนาน 12เดือน
ต้องเปิดตรวจสอบ
“ทุกๆ 3เดือน“
ว่าเข้าที่หรือยัง
จึงจะนำไปใช้ในการรักษาได้
2. ตำรับผึ้งทอง
มีอันตรายไหม?
(อาจารย์สมหวัง)
ไม่อันตรายเลยครับ
เพราะเป็นอาหารทั้งหมด
“ไม่มียาเลย“
แต่ไม่เหมาะกับคนที่แพ้น้ำผึ้ง
โดยน้ำผึ้งยังมีสรรพคุณรักษา
การอักเสบของอวัยวะภายในอีกด้วย
3. ตำรับผึ้งทอง
เด็กทานได้ไหม?
(อาจารย์สมหวัง)
“เด็กตั้งแต่อายุ 7ปีขึ้นไปทานได้ครับ”
ไม่มีอันตรายใดๆ
แต่ไม่เหมาะกับเด็กที่แพ้น้ำผึ้ง
(ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข)
3ใน10คน ของผู้ป่วยหืดทั้งหมด
คือเด็กอายุ0-9ปี
วิธีสำหรับให้เด็กทานนั้น
ก็ทำได้ด้วยการ
ให้ทานในปริมาณ
ที่น้อยกว่าของผู้ใหญ่ครึ่งหนึ่ง
เช่น ผู้ใหญ่ทานครั้งละ1ขวด
เด็กก็ทานครั้งละครึ่งขวดแบบนี้
เด็กจึงใช้เวลานานกว่าผู้ใหญ่นิดหน่อย
ทานไม่หมดขวดสามารถเก็บตู้เย็นได้
4. ตำรับผึ้งทอง
คนเป็นเบาหวาน
ทานได้ไหม?
(อาจารย์สมหวัง)
“คนเป็นเบาหวานทานได้”
ไม่มีอันตรายใดๆ
“สรรพคุณน้ำผึ้งยังไปช่วย
บรรเทาอาการเบาหวาน”
จึงสามารถทานตำรับนี้
คู่กับยารักษาเบาหวานได้พร้อมกันครับ
(ข้อมูลจาก พบแพทย์.com)
งานวิจัยบางงานชี้ว่า
การรับประทานน้ำผึ้งทุกวัน
ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือด
ของผู้ป่วยเบาหวานลดลงได้
5. ตำรับผึ้งทอง
ทำไมถึงเก็บได้นานไม่เสีย?
(อาจารย์สมหวัง)
“เพราะดองกับน้ำผึ้งครับ”
เป็นวิธีการถนอมอาหารตามธรรมชาติ
“น้ำผึ้งเป็นสารต่อต้านจุลินทรีย์
และยับยั้งแบคทีเรีย”
(ข้อมูลจาก)
ผลวิจัยการศึกษา
ประสิทธิภาพของน้ำผึ้งในการยับยั้ง
การเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
สายวิชาวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ซึ่งการต่อต้านจุลินทรีย์
และแบคทีเรียนี้เอง
ที่เป็นสรรพคุณเด่น
ตามธรรมชาติของน้ำผึ้ง
เพราะเหตุนี้เอง “ตำรับผึ้งทอง”
จึงไม่ต้องใส่ยากันบูดหรือเคมีใดๆ
6. ตำรับผึ้งทอง
รสชาดเป็นยังไง เหม็นมั้ย?
(อาจารย์สมหวัง)
“ตำรับสีน้ำตาลเข้ม รสชาดหวาน
มีเปรี้ยวปนปะแล่มๆ ไม่เหม็นเลย”
เพราะไปดองกับน้ำผึ้งนาน 12เดือน
รสชาดจึงหอมหวานตามน้ำผึ้งไปแล้ว
เเม้แต่เด็กๆยังทานได้สบายๆ
7. ตำรับผึ้งทอง
มีอ.ย.หรือไม่?
(อาจารย์สมหวัง)
“ตำรับนี้เป็นอาหาร” ไม่มียาเลย
ปรุงด้วยมือผมเองทุกขวด
ไม่มีอ.ย.ครับ
เป็นการปรุงสด แล้วนำไปดองน้ำผึ้ง
และตำรับที่มีจำนวนไม่มาก
จึงไม่สามารถ
ที่จะผลิตเป็นอุตสาหกรรมได้
และตำรับผึ้งทองนี้
เป็นตำรับที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น
เคล็ดลับ และสูตรทั้งหมด
เป็นความลับ
ที่จะสืบทอดประจำตระกูล
8. จะรู้ได้อย่างไรว่า
จบอาการ ที่เคยทรมานแล้ว ?
(อาจารย์สมหวัง)
เมื่อทานไปประมาณ 3 วัน
คุณจะไอหนักขึ้น อย่าตกใจ
เพราะร่างกายกำลัง
ขับผังผืดสารคัดหลั่งพิษนี้ออกมา
หลังจากทานไป 6 วัน
อาการไอจะลดลง อย่างเห็นได้ชัดเจน
คุณจะนอนหลับได้สนิท ไม่ตื่นมาไอ
มีความสุข
อย่างที่ไม่เคยได้รับมานานมากแล้ว
โดยผังผืดสารคัดหลั่งพิษนี้
จะถูกขับออก
ในรูปแบบเสมหะ
(สีเขียว สีดำ สีเทา)
หรือปนออกมากับอุจจาระ
(เป็นเมือกๆสีเขียว สีดำ สีเทา)
และเมื่อใดที่อาการไอไม่เกิดขึ้น
เมื่อเจอเหตุที่ทำให้ไอ
หรืออาการหอบหืดกำเริบ
และร่างกายไม่มีเสมหะ
หรือ อุจจาระไม่มีเมือก
ปนออกมาด้วย ก็จบ
9ใน10คน ของผู้ป่วยหอบหืด
ที่ป่วยมานาน “ไม่เกิน 5ปี”
จะจบทุกอาการหอบหืด
ในเวลา 24-48 วัน
9. ตำรับผึ้งทอง
ใช้เวลารักษากี่วัน กว่าจะจบอาการ ?
(อาจารย์สมหวัง)
“ตำรับผึ้งทอง”นี้ทานวันละ 1ขวด
ป่วยหอบหืด “ไม่เกิน 5ปี”
หรือผู้ป่วยระยะ1-2
ใช้เวลาประมาณ 24 วัน
ป่วยหอบหืดตั้งแต่ “5ปีขึ้นไป
หรือผู้ป่วยอาการรุนแรง
ใช้เวลาประมาณ 24-36 วัน
10. หัวใจที่สำคัญที่สุด
เมื่อจบอาการแล้ว
จะทำยังไง
เพื่อไม่ให้กลับมาเป็นอีก ?
(อาจารย์สมหวัง)
“เพราะอวัยวะภายในคุณอ่อนแอ”
คุณต้องดูแลในส่วนนี้ให้แข็งแรง
คุณต้องเข้าใจว่า
ปกติแล้วร่างกายเค้าก็ขับ
สารคัดหลั่งนี้เป็นปกติ
เพื่อทำให้ระบบทางเดินหายใจชุ่มชื้น ยืดหยุ่น
(เหมือนตา ต้องมีน้ำตาหล่อเลี้ยง
หรือจมูกต้องมีเมือกๆในรูจมูก)
ทีนี้อวัยวะภายในคุณเค้าอ่อนแอลง
ทำให้สารคัดหลั่งนี้มันตกค้าง
เมื่อคุณรักษาจนจบอาการแล้ว
เอาผังผืด สารคัดหลั่งพิษ
ออกไปหมดแล้ว
คุณก็ต้องป้องกัน
ไม่ให้ไปพอกสะสมใหม่ด้วยการ
ทำให้ “อวัยวะภายใน”ของคุณเค้าแข็งแรง
ให้เค้าผลิดเอง และขับทิ้งเองได้ปกติ
คุณก็จะไม่เป็น”หอบหืด”อีกเลย
อาจารย์แพทย์โบราณจึงต้องรักษาคู่กัน
ทั้งเอา”ผังผืดสารคัดหลั่งพิษ” ออกมา
และฟื้นฟู “อวัยวะภายใน”
ให้เค้าแข็งแรงทำงานได้ปกติ
พอคุณหายแล้ว
ก็จะไม่กลับไปเป็นอีกตลอดชีวิต
ซึ่งแต่ละคนนั้น
มีความอ่อนแอไม่เหมือนกัน
การฟื้นฟูหลังจากหายขาด
จึงเป็นเรื่อง “เฉพาะแต่ละคน“
แต่ละคนจึงต้องโทรมาคุยกับผม
ด้วยตัวท่านเอง!!!
ราคา”ตำรับผึ้งทอง”
ซึ่งทุกขวดปรุงด้วยมืออาจารย์
ราคาเท่าไหร่?
อาจารย์สมหวัง (วัย84ปี)
ราคา”ตำรับผึ้งทอง”
สูตรประจำตระกูล “รุ่นที่6”
ปรุงด้วยมืออาจารย์100%
จะใช้มากน้อยขึ้นอยู่กับว่า
อาการของคนที่ป่วยแต่ละคนต่างกัน
อยู่ที่ว่าจำเป็นต้องทานนานเท่าไหร่
และเป็นหอบหืดมานานแค่ไหน
โดยท่านที่ป่วยเรื้อรังมานานหลายปี
ร่างกายจะพอกสารคัดหลั่งพิษนี้
ให้หนาขึ้นมากๆ
จึงใช้เวลานานในการขับออกมาให้หมด
ราคาจะปรับขึ้นลงตามฤดูกาล
หลายช่วงวัตถุดิบไม่ครบก็จะทำตำรับไม่ได้
โลกร้อนขึ้นทำให้วัตถุดิบนับวันยิ่งหายาก
จึงต้องบอกตรงๆว่า
ผมไม่สามารถทำตำรับได้เป็นจำนวนมากๆ
และต้องขออภัยล่วงหน้าด้วย
ที่หลายครั้งที่คุณติดต่อมาแล้ว
ผม”ไม่มีตำรับเพื่อรักษาเลย”
เป็นเวลานาน
เพราะ80%ของวัตถุดิบต้องนำเข้า
เมื่อผ่านขั้นตอนการปรุงแล้ว
ต้องดองด้วยน้ำผึ้งคัดพิเศษอีก 12เดือน
1 รอบของตำรับที่สมบูรณ์จากมือผม
ที่ผ่านการดองกับน้ำผึ้ง
จนครบ12เดือนแล้ว
จะมีตำรับรักษาได้
ไม่เกิน 8-12คน
พิเศษเฉพาะรอบนี้ 5 คนแรก!!!
เพราะอาจารย์
อยากช่วยเหลือคุณในยุคโควิท
ปกติราคาคอร์สละ 24000.-
1 คอร์สทานได้ 12 วัน
ลดพิเศษ!!!
เหลือเพียงคอร์สละ 18000.-
(ถูกลง 25%)
เฉพาะ 5 คนแรกเท่านั้น!!!
ปริมาณการทาน
1. ป่วยหอบหืด “ไม่เกิน5ปี”
หรือป่วยระยะที่1-2
ต้องทานประมาณ 2 คอร์ส (24วัน)
จากปกติ 72000.-
(เหลือเพียง 36000.-)
จบอาการวันนี้ เทียบได้กับ
คุณอาจจะเสียเงินในอนาคต
ถ้าเข้าฉุกเฉินประมาณ 2-3 วัน
(วันละประมาณ 15,000บาท)
2. ป่วยหอบหืดตั้งแต่ “5ปี ขึ้นไป”
หรือท่านที่มีอาการรุนแรง
ต้องทานประมาณ 3-4 คอร์ส(36-48วัน)
จากปกติ 96,000.-
(เหลือเพียง 54000.-)
จบอาการวันนี้ เทียบได้กับ
คุณอาจจะเสียเงินในอนาคต
ถ้าเข้าฉุกเฉินประมาณ 4 วัน
(วันละประมาณ 15,000บาท)
ในราคานี้
สิ่งที่คุณจะได้รับคือ
1. ตำรับผึ้งทอง
รักษาอาการ”หอบหืด” หรือ”ไอเรื้อรัง”
(แบบขวด)
2.โทรปรึกษาอาการกับอาจารย์
ก่อนรักษา ระหว่างรักษา และหลังรักษา
รวมถึงปรึกษาโรคอื่นๆฟรี!!!
และที่สำคัญที่สุด
ซึ่งเป็น”หัวใจ“ของการรักษา
คือข้อ3นี้ครับ
3.เคล็ดลับฟื้นฟู และป้องกัน
“เฉพาะแต่ละท่าน”
เพื่อหลังจากจบทุกอาการแล้ว
จะไม่กลับมาเป็นอีกตลอดชีวิต
ต้องการสั่งซื้อ
กดที่ปุ่มด้านล่างนี้ได้เลยครับ
คุณสามารถไปปรึกษากับอาจารย์โดยตรงได้
ทั้ง 2สาขานี้
สำหรับคุณที่ยังมีข้อสงสัยและ
อยากไปพบอาจารย์ส่วนตัว
คุณสามารถไปพบเพื่อปรึกษา
กับอาจารย์ได้ทั้ง 2สาขานี้
สาขาที่1
ห้างสรรพสินค้า พาราไดซ์ พาร์ค (ศรีนครินทร์)
(ทุกวันพุธ และ วันเสาร์) 13:00-19:00น.
เชียงใหม่บ้านฟาร์มชา (โซนตลาดเสรีมาร์เก็ต)
61 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
ตามแผนที่ด้านล่างนี้
สาขาที่2
หมู่บ้าน บ้านหลังสวน (พุทธมณฑลสาย4)
(ทุกวันอาทิตย์) 13:30-18:00น.
90/73 หมู่1 หมู่บ้าน บ้านหลังสวน
ถ.พุทธมณฑลสาย 4 ต.บางกระทึก
อ.สามพราน จ.นครปฐม 73210
ตามแผนที่ด้านล่างนี้
ต้องการสั่งซื้อ
กดที่ปุ่มด้านล่างนี้ได้เลยครับ